อาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คือ กลุ่มอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือความผิดปกติของระบบโครงสร้างร่างกายที่เกิดจากพฤติกรรมการทำงานซ้ำๆ และนั่งในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน เช่น นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันโดยไม่ขยับตัว หรือจัดโต๊ะทำงานไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์
อาการออฟฟิศซินโดรม มีอะไรบ้าง?
- ปวดคอ บ่า ไหล่ หรือหลัง
- อาการชาตามแขน มือ หรือปลายนิ้ว
- ปวดศีรษะตอนบ่าย
- ปวดตา แสบตา หรือมองไม่ชัดเมื่อนั่งจ้องจอนาน
- ปวดข้อมือจากการใช้เมาส์
สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม
อาการออฟฟิศซินโดรมมักเกิดจากพฤติกรรมซ้ำๆในชีวิตประจำวัน เช่น:
- นั่งทำงานท่าเดิมติดต่อกันหลายชั่วโมง
- โต๊ะและเก้าอี้ไม่รองรับตามหลักสรีรศาสตร์
- วางหน้าจอไม่พอดีกับระดับสายตา
- ขาดการยืดเหยียด หรือการออกกำลังกาย
ระดับของออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรมเป็นภาวะที่เกิดขึ้นจากการใช้งานกล้ามเนื้อและร่างกายซ้ำ ๆ โดยเฉพาะในผู้ที่นั่งทำงานเป็นเวลานาน โดยสามารถแบ่งระดับความรุนแรงของอาการออกเป็น 3 ระดับหลัก ๆ ดังนี้
1. ระยะเริ่มต้น (Mild)
ในระยะนี้ ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ หรือหลังช่วงล่างเป็นบางครั้ง โดยอาการมักเกิดขึ้นหลังทำงานต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง และจะดีขึ้นเมื่อได้พักหรือยืดเหยียด อาการยังไม่รุนแรง และสามารถหายได้ด้วยการปรับพฤติกรรมพื้นฐาน เช่น การเปลี่ยนอิริยาบถ หรือจัดโต๊ะทำงานให้เหมาะสม
2. ระยะปานกลาง (Moderate)
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเรื้อรังมากขึ้น รู้สึกตึงกล้ามเนื้อตลอดทั้งวัน หรือมีอาการชาและร้าวลงแขนหรือมือร่วมด้วย ในบางรายอาจมีอาการนอนไม่หลับหรืออ่อนล้าสะสม หากปล่อยไว้อาจพัฒนาไปสู่ระดับที่รุนแรงขึ้น การรักษาในระยะนี้จำเป็นต้องใช้กายภาพบำบัดร่วมกับการปรับพฤติกรรมอย่างจริงจัง
3. ระยะรุนแรง (Severe)
อาการจะรบกวนชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน เช่น ปวดตลอดเวลา เคลื่อนไหวลำบาก หันคอไม่ได้ หรือแขนยกไม่ขึ้น บางรายอาจมีพฤติกรรมชดเชยโดยไม่รู้ตัว เช่น เดินเอียง หรือท่าทางผิดปกติ การรักษาต้องอาศัยนักกายภาพบำบัดเฉพาะทาง และอาจต้องใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีช่วยฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง
การสังเกตอาการแต่เนิ่น ๆ และรับการรักษาอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเรื้อรังหรือเสี่ยงต่อภาวะกระดูกเสื่อมในอนาคตได้
ออฟฟิศซินโดรม รักษาอย่างไรได้บ้าง?
การรักษาออฟฟิศซินโดรมสามารถทำได้หลายวิธี โดยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ และพฤติกรรมของผู้ป่วยในชีวิตประจำวัน โดยแบ่งออกเป็น 2 แนวทางหลัก คือ การรักษาเพื่อลดอาการเฉียบพลัน และการรักษาเพื่อปรับพฤติกรรมระยะยาว
เปรียบเทียบวิธีรักษาออฟฟิศซินโดรม
วิธีรักษา | ข้อดี | ข้อควรระวัง |
---|---|---|
กายภาพบำบัด | รักษาที่ต้นเหตุ ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ปลอดภัย | ต้องทำต่อเนื่อง โดยนักกายภาพบำบัด |
นวดผ่อนคลาย | ช่วยคลายกล้ามเนื้อชั่วคราว | อาการอาจกลับมาได้ง่าย |
ฝังเข็ม / ครอบแก้ว | กระตุ้นการไหลเวียนเลือด | ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ |
รับประทานยา | ลดอาการเฉียบพลันได้รวดเร็ว | ไม่ใช่การรักษาต้นเหตุ |
ปรับโต๊ะ เก้าอี้ ท่านั่ง | ลดแรงกดต่อกล้ามเนื้อ | ต้องมีวินัยและทำสม่ำเสมอ |
ทำไม “กายภาพบำบัด” จึงเหมาะที่สุด?
การรักษาออฟฟิศซินโดรมมีหลายวิธีให้เลือก แต่หนึ่งในวิธีที่ได้ผลดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดคือ “กายภาพบำบัด” เพราะเน้นรักษาที่ต้นเหตุของอาการ ไม่ใช่แค่การบรรเทาแบบชั่วคราวเหมือนการกินยา หรือการนวดทั่วไป
กายภาพบำบัด (Physical Therapy) คือแนวทางการฟื้นฟูร่างกายอย่างมีระบบ โดยนักกายภาพบำบัดจะทำการประเมิน วิเคราะห์ และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคน
ข้อดีของการทำกายภาพบำบัด
- รักษาอาการจากต้นเหตุ ไม่ใช่แค่บรรเทาชั่วคราว
- ปลอดภัย ไม่ใช้ยา ไม่ผ่าตัด
- ช่วยปรับสมดุลกล้ามเนื้อและโครงสร้างร่างกาย
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาอย่างยั่งยืน
เคล็ดลับป้องกันออฟฟิศซินโดรมด้วยตนเอง
- เปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-60 นาที
- จัดโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะกับสรีระ
- ใช้จอคอมระดับสายตา
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ หรือว่ายน้ำ
- ยืดกล้ามเนื้อบริเวณคอบ่าไหล่เป็นประจำ
ทำไมต้องเลือก Moveon Clinic?
Moveon Clinic มีความเชี่ยวชาญในการ รักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยกายภาพบำบัด โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยและประเมินอาการเฉพาะบุคคล
- มีเครื่องมือ Focus Shockwave และอุปกรณ์มาตรฐานโรงพยาบาล
- ทีมงานนักกายภาพบำบัดมืออาชีพ
- ติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด
- ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองที่บ้าน
📞 จองวันนี้ เพื่อรับโปรโมชั่นพิเศษกับทางคลินิก
หากคุณเริ่มมีอาการปวดเรื้อรังจากออฟฟิศซินโดรม อย่ารอช้า! การเริ่มรักษาเร็วจะช่วยให้หายเร็วขึ้น
📍 ปรึกษาฟรีกับนักกายภาพบำบัดของเรา คลิกเลย: [LINE Official] หรือโทร 062-519-8865